ออม 2 แสน ได้ 2 ล้าน

24 กันยายน 2561

 คำถามที่ผมมักจะถูกถามอยู่บ่อย ๆ เวลามีคนมาถามเกี่ยวกับเรื่องประกันสังคมคือ


อาจารย์พอทราบไหมครับว่าเงินที่จ่ายไปทุกเดือนให้กับประกันสังคมนั้น คุ้มจริงหรือเปล่า
หรือ เงินที่จะได้กลับคืนมานั้นเป็นจำนวนเท่าไหร่ อยากให้อาจารย์ช่วยแนะนำหน่อยครับ


อย่างแรกที่ทุกคนควรทราบคือ...การจ่ายเงินสมทบของผู้ประกันตนนั้น เงินมากกว่าครึ่งที่จ่ายไปก็คือเงินออมของเราที่จะเข้าไปสะสมอยู่ใน กองทุนชราภาพ (หรือหมายถึง กองทุนบำนาญเมื่อยามเกษียณนั่นเอง) ซึ่งเมื่อลองไปวิเคราะห์ดูแล้ว จะเห็นว่าเมื่อเทียบเงินที่จ่ายสมทบกับเงินบำนาญที่จะได้รับคืนนั้นถือว่าคุ้มค่ายิ่งกว่าที่คิด


วิธีออมเงินให้ได้สองล้าน


ความหมายของเงินบำนาญนั้น คือเงินเพื่อการดำรงชีพพื้นฐาน แต่ถามว่าจะคุ้มยังไง ผมจะขอตอบคำถามด้วยการยกตัวอย่างให้ดูครับจะได้เห็นภาพชัดขึ้น

ผู้ประกันตนเริ่มทำงานตั้งแต่อายุ 25 ปี และเกษียณตอนอายุ 60 ปี รวมแล้วทำงานทั้งหมด 35 ปี ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบเดือนละ 750 บาท แบ่งเงิน 300 บาท สำหรับค่ารักษาพยาบาล อุบัติเหตุ ทุพพลภาพ คลอดบุตร สงเคราะห์บุตร ว่างงาน และเสียชีวิต และอีก 450  บาทเป็นเงินออม (เท่ากับว่าจ่ายต่อปี 450 x 12 = 5,400 บาท)


ใน 1 ปี จ่ายเงินออม = 5,400 บาท ทำงานทั้งชีวิต 35 ปี เท่ากับจ่ายเงินสมทบประมาณ 189,000 บาท (5,400 x 35 = 189,000 บาท)

เมื่ออายุครบ 60 ปี รวมเงินสมทบจากนายจ้าง เงินสมทบจากรัฐบาล และดอกผลแล้ว จะมีเงินในบัญชีประมาณ 800,000 บาท ซึ่งมาจากเงินออมของเราเพียง 189,000 บาทเท่านั้น  


 เงินในบัญชีก้อนที่ว่านี้จะถูกทยอยจ่ายออกมาเป็นเงินบำนาญ ซึ่งถ้าอยู่ได้จนถึงอายุ 82 ปี ถึงเวลานั้นยอดเงินบำนาญที่ได้รับทุกเดือน รวมแล้วประมาณ 2,000,000 บาท เลยทีเดียว


ระหว่างจ่ายเงินสมทบ เพื่อสะสมเข้ากองทุนชราภาพ
(จ่าย 2 แสน)
เงินบำนาญที่จ่ายออกมาจากกองทุนชราภาพ
(ได้ 2 ล้าน)

1. สมทบเดือนละ 750 บาท ซึ่ง 450 บาท ถูกหักออกมาเป็นเงินออมต่อเดือน

2. เงินออมจึงเป็น 5,400 บาท ต่อปี (450 x 12)

3. ออมต่อเนื่องกัน 35 ปี เท่ากับ 189,000 บาท (5,400 x 35)

1. บำนาญต่อเดือนสำหรับการจ่ายสมทบยาวนานถึง 35 ปี เท่ากับ 7,500 บาท ต่อเดือน

2. เงินบำนาญจึงเป็น 90,000 บาท ต่อปี

3. อยู่รับเงินบำนาญถึง 22 ปี เท่ากับ 1,980,000 บาท (90,000 x 25)



  เปรียบเทียบกันให้เห็นชัด ๆ จากเงินต้นที่จ่ายไม่ถึง 2 แสน แต่มีโอกาสรับบำนาญสะสมรวมกันถึง 2 ล้าน 


หลักการที่ทำให้ได้รับเงินบำนาญมากกว่า 2 ล้านนั้น มีอยู่ 2 เงื่อนไข คือ

      1. ในช่วงที่จ่ายเงินสมทบ ให้จ่ายให้นานที่สุด เพราะยิ่งจ่ายสมทบได้จำนวนปีที่มากเท่าไร ก็จะทำให้ได้ตัวคูณตอนรับเงินบำนาญในแต่ละเดือนที่มากยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณ (คล้าย ๆ โบนัส) มากขึ้นเท่านั้น


       2. ในช่วงที่ทยอยรับเงินบำนาญ ผมแนะนำให้รักษาสุขภาพและอายุยืนให้ได้มากที่สุด เพราะเงินบำนาญในแต่ละเดือนจะเป็นเงินที่การันตี และถูกจ่ายออกมาเรื่อย ๆ จนกว่าจะเสียชีวิต ย้ำนะครับว่า การันตีโดยไม่ว่าตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน หรือสงครามจะเป็นอย่างไร เราก็จะได้เงินบำนาญที่การันตีอยู่เสมอ และการันตีจ่ายทั้งชีวิตหลังเกษียณ ซึ่งไม่มีประกันแบบไหนที่ให้ได้อย่างนี้แล้ว


จากหลักการข้างต้นนั้น จะเห็นว่ายิ่งจ่ายเงินสมทบให้นานที่สุด ยิ่งอายุยืนให้นานที่สุด ก็จะยิ่งคุ้มหลายเท่าตัวดังที่กล่าวมาครับ (อย่างน้อยก็ 10 เท่า เห็น ๆ )

       ซึ่งถ้าเราไปเริ่มเข้าประกันสังคมตอนอายุ 35 ปี และจ่ายต่อเนื่องไปจนถึงอายุ 60 ปี (ก็จะสมทบได้ราว ๆ 1.5 แสนบาท) แล้วไปรับเงินบำนาญทุกเดือนจนถึงอายุ 85 ปี (ก็จะได้ไป 1.5 ล้านบาท) เช่นกัน 


ออมเงินอย่างไรให้ถึง 2 ล้าน



จากการคำนวณในตารางมรณะที่นักคณิตศาสตร์ประกันภัยใช้คำนวณอายุขัยของคนไทย - รู้ไหมครับว่า เมื่อ 50 ปีที่ผ่านมานี้ คนไทยเราอายุยืนขึ้นมาเกือบ 20 ปี  แปลว่า ถ้าตอนนี้อายุเฉลี่ยของคนไทยเราอยู่ที่ 75 ปี และถ้าเราหมุนเวลาไปข้างหน้าอีก 25 ปีแล้ว ตอนนั้นอายุเฉลี่ยของคนไทยเราคงจะถึง 85 ปี แน่ ๆ

       

จากตัวอย่างที่ผมอธิบายไปนั้น ผมจึงอยากแนะนำว่าแทนที่จะเอาเวลามานั่งลังเลว่ามันคุ้มจริงหรือเปล่า ผมว่าเราเอาเวลามาหมั่นออกกำลังกายกันให้อายุยืนขึ้นดีกว่าครับ จะได้รับเงินบำนาญเต็ม ๆ ถึง 2 ล้านไปเลย


อ้างอิง: FINNOMENA 





บทความที่เกี่ยวข้อง


Like Share

บทความอื่น