อย่าซื้อประกันหลายตัวเพราะไม่คุ้มค่า จริงหรือไม่ ?

23 กรกฎาคม 2562







ซื้อแล้วไม่คุ้ม ? 
ความคุ้มเราดูจากอะไรบ้าง ผลประโยชน์กับเงินที่เราเสียไป ลักษณะโครงสร้างของประกันทุกครั้งเมื่อได้จ่ายเบี้ย คือต้นทุนชนิดหนึ่งเหมือนกัน อย่างไรก็ตามเบี้ยที่เราจ่ายไปจะสูงกว่าต้นทุนเฉลี่ยอยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราจ่ายประกันสุขภาพไป 100 บาท บริษัทประกันก็จะคำนวณต้นทุนเฉลี่ยซึ่งต่ำกว่า 100 บาทอยู่แล้ว เพื่อที่เขาจะได้มีค่าใช้จ่ายในส่วนของการดำเนินงานของเขา  ถ้าท่านไม่ได้ใช้เลยก็จะได้ผลตอบแทน 0 บาท แต่ถ้าได้ใช้ก็อาจจะได้ 100 - 200 บาท ซึ่งถ้าคิดเฉลี่ยกันแล้วก็จะอยู่ในวงเงิน 100 บาท ซึ่งการซื้อประกันไปก็อาจจะไม่ได้คุ้มหรือได้กำไรอยู่แล้ว

ประกันมีหลากหลายประเภท  
ประกันจ่ายทิ้ง  คือ ถ้าท่านเสียชีวิตท่านจะได้เงิน แต่ถ้าท่านยังไม่เสียชีวิตท่านจะยังไม่ได้เงินคืน ยกตัวอย่างเช่น การกู้ซื้อบ้าน ถ้าหากท่านเกิดอุบัติเหตุหรือเสียชีวิต ประกันตรงนี้จะเข้ามาช่วยเหลือท่านเพื่อไม่ก่อให้คนข้างหลังเดือดร้อน 
ประกันสุขภาพ ที่รู้จักกันดี เช่น ถ้าป่วย เป็นโรค ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในเงื่อนไขประกัน จะสามารถเบิกเงินรักษาได้
ประกันเงินออม คือ การนำเงินไปออมกับประกัน ให้เขาช่วยจัดสรรและวางแผนการเงินของเราได้

ซื้อประกันเผื่อไว้หลายตัวดีหรือไม่ดี?

ประกันเงินออม ทำไมต้องออมเงินกับประกัน ?
ลักษณะของประกันเป็นประกันระยะยาว ยาวนาน 10 ปี – 20 ปีเป็นต้น ประกันจะการันตรีให้ เวลาที่เขาได้เบี้ยมาเขาจะนำเงินไปลงทุนในหุ้นได้แค่ส่วนน้อย แต่จะนำเงินไปลงทุนในพันธบัตรเป็นหลัก และพันธบัตรตัวนี้ ในส่วนใหญ่บางครั้งต้องลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลด้วย เมื่อเป็นพันธบัตรรัฐบาลดอกเบี้ยมันจะอยู่ที่ 3% ต่อปี และถ้าบริษัทประกันจะให้ดอกเบี้ยมากกว่าพันธบัตรรัฐบาลก็คงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าตรงนั้นมันคือต้นทุนของบริษัทที่นำเงินของเรามาลงทุนให้ในระยะยาว และเขาก็จะจัดจ่ายค่าความคุ้มครองให้ การทำประกันเงินออมนี้เหมาะกับคนที่ไม่มีวินัยในการเก็บเงิน ไม่มีความรู้ในด้านการเงิน ประกันเงินออมก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะให้เขาเข้ามาช่วยจัดสรรเงินออมตรงนี้ให้เป็นสัดเป็นส่วน


ทำไมถึงต้องออมเงินกับประกัน?

Unit-Linked ผลตอบแทนไม่มัน !
ผู้คนทั่วไปอาจจะวางแผนส่วนผสมทางการเงินด้วยตนเองได้ มีวินัยทางการเงิน สามารถนำเงินไปลงในหุ้นได้  ที่ได้มากกว่าการลงในพันธบัตร แต่บริษัทประกันเองก็เจอทางตันเนื่องว่าเงินที่ฝากเข้ามาส่วนใหญ่จะไปลงในพันธบัตรจึงให้ผลตอบแทนกับลูกค้าได้น้อย มันจึงมีทางออกอีกแบบนึงที่ว่า ถ้าสมมุติว่ามีตัวเลือกให้บริษัทประกันนำเงินไปลงทุนในหุ้นเป็นส่วนใหญ่ บริษัทประกันก็จะการันตีเงินตรงนี้ให้กับคนที่ซื้อไม่ได้ มันเลยออกมาเป็นแบบ Unit-Linked 

Unit-Linked คือ การทำประกันเพื่อการลงทุน 
แทนที่จะใส่เงินเข้ามาบริษัทประกันก็จะคำนวณให้ทุกอย่างว่าจะต้องคืนเงินเท่าไหร่ ปีไหน อย่างไรบ้างเพราะเขาการันตีทุกอย่าง ท่านเพียงฝากเงินเข้ามาทางบริษัทจะมีกองทุนหรือมูลค่าบัญชีให้ และจะค่อย ๆ ตัดค่าธรรมเนียมปีต่อปี เหมือนประกันทิ้งเปล่า จะไปถอนเงินจากกองกลางที่เราใส่เงินเข้ามา ไปเรื่อย ๆ ถ้ามองทั่วไปจะเหมือนกับว่า ซื้อประกันพื้นฐานธรรมดาทั่วไปจ่ายเงินให้เขาตามปกติเพียงแต่ลูกค้าจะเลือกได้ว่าจะลงทุนในอะไรตามแต่ละช่วงของชีวิตเขา 

Unit linked ประกันเพื่อการลงทุน

ซื้อประกันแบบจ่ายทิ้ง แล้วซื้อหุ้นประกัน VS  Unit-Linked ซื้ออย่างไหนคุ้มกว่ากัน ?
การซื้อ Unit-Linked กระจายความเสี่ยงมากกว่า ถ้าถามว่าซื้อหุ้นประกันก็ได้ หรือ บริษัทประกันเองตั้ง Unit-Linked เพื่อซื้อหุ้นประกันเองก็ทำได้ เพียงแต่ความเสี่ยงของธุรกิจจะมีขึ้นมีลงกันไป อาจจะทำให้ไม่ได้ผลตอบแทนรวดเร็วอย่างตั้งใจไว้ แต่จะค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป แต่บริษัทที่กำไรเยอะไม่ได้แปลว่าหุ้นเขาจะซื้อได้ ในเมื่อผู้คนส่วนใหญ่คิดว่าหุ้นเขาได้กำไร ราคาหุ้นก็จะขึ้นไว้ล่วงหน้า บริษัทที่กำไรดีไม่ได้แปลว่าเป็นหุ้นที่ดี ... ถึงแม้บริษัทประกันจะมีความเสี่ยงน้อยในอดีตได้กำไรดีมาตลอด “แต่ผลงานในอดีต ไม่สามารถทำนายอนาคตได้”

ทางออกสำหรับผู้ที่สามารถวางแผนและวิเคราะห์ด้านการเงินได้
เขาจะเรียกกันว่า ที่ปรึกษาทางด้านการเงิน มันก็จะดูทุกอย่างครบวงจร รวมไปถึงเรื่องวางแผนทางด้านการเงิน  มองว่าในการที่เราจะไปซื้อประกันยุคใหม่ มันต้องซื้อพร้อมกับเรื่อง service ในการวางแผนการเงิน ไม่ใช่ดูแค่ว่ามันคุ้มอย่างไร ต้องดูการวางแผนทางการเงินด้วย และเราวางแผนในระยะยาวอย่างไร ไม่อย่างนั้นตัวเลือกอื่นในตลาดก็มี ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวม, สลากออมสิน มันมีเครื่องมือมากมาย เพียงแต่ว่าเราควรมองถึงเรื่องการคุ้มครองมากกว่า  
Unit-Linked ก็เช่นกัน ถ้าจะหวังว่าได้กำไรหรือรวยอาจจะเป็นคนละมุม มุมที่ว่าถ้าอยากจะได้เหมือนประกันสมัยก่อนที่จ่ายเบี้ยไปแล้วคุ้มครองตลอดชีวิตแต่ว่าเบี้ยที่เราจ่ายมันจะเป็นระยะยาว แต่ต้องนำเงินไปอยู่ในส่วนของพันธบัตร มันก็อาจจะดูว่าจำเป็นหรือไม่ แต่ในระยะยาวถ้าลงทุนในหุ้นต่อเนื่องกันเป็น 10 ปี มันก็จะได้ผลตอบแทนที่เฉลี่ยสูงกว่าพันธบัตร ก็จะเปิดโอกาสให้คนที่คิดว่ารับความผันผวนของตรงนี้ได้ เพราะอย่างไรก็ตามการซื้อประกันระยะยาวก็เป็นการหวังผลระยะยาวอยู่แล้ว ก็จะได้ประหยัดเงินในการจ่ายเบี้ยอีกด้วย

การซื้อประกันแบบหวังผลระยะยาว


ในอนาคตประกันทั่วไปจะค่อย ๆ หายไป 
ในอนาคตประกันที่ขายกันทั่ว ๆ ไป จะค่อย ๆ หายไป อาจจะเปลี่ยนเป็นแบบ Unit-Linked เพราะว่าการลงทุนเงินในพันธบัตรอาจจะได้แค่ 3% อาจจะดูไม่คุ้ม แต่ถ้าผันเงินไปอยู่ใน Unit-Linked แทน มันก็จะมีวัตถุประสงค์คนละแบบ ในความเป็นจริงแล้วควร “ซื้อประกันเพื่อประกัน” อย่าไปซื้อประกันเพื่อหวังผล เพราะการซื้อประกันคือการลดความสูญเสียในเรื่องการเงิน ...

สามารถอ่านข้อมูลเกี่ยวกับ Unit-Linked เพิ่มเติมได้ที่ 





FSA, FIA, FRM, FSAT, MBA, MScFE (Hons), B.Eng (Hons)
นายกสมาคมนักคณิตศาสตร์ประกันภัยแห่งประเทศไทย 
อาจารย์บรรยายด้านผลประโยชน์พนักงานด้วยหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย 
อาจารย์ที่ปรึกษาบทภาพยนตร์ Love battle รัก 2 ปียินดีคืนเงิน 
และผู้แต่งหนังสือ
  • The Top Job Secret ภาค 1 – อาชีพเงินล้านที่คนไทยยังไม่รู้จัก
  • The Top Job Secret ภาค 2 - ทำน้อยได้มาก ฉลาดเลือกงาน 
  • ให้เงินทำงาน ภาค 1 - การจัดการสินทรัพย์และหนี้สินให้ถูกวิธี (Asset Liability Management)
  • ให้เงินทำงาน ภาค 2 - วิเคราะห์ภาษีกับนักคณิตศาสตร์ประกันภัย (ตัดสินใจวางแผนการออมเพื่อประโยชน์ทางภาษี)