13 มกราคม 2564
New Normal ในโลกธุรกิจ
ที่ต้องการเชอร์ล็อก โฮมส์
สิ่งที่เชอร์ล็อกโฮมส์ทำได้มากไปกว่าการเป็นแค่นักสืบนั่นก็คือ การที่สามารถวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต เพื่อนำมาจำลองเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตจากหลาย ๆ เหตุการณ์ตามแต่ข้อมูลและเงื่อนไขของสถานการณ์ที่มี ซึ่งก็เป็นหน้าที่ที่คล้ายคลึงกับนักคณิตศาสตร์ประกันภัยหรือนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลมาก
และแน่นอนที่ว่าสิ่งที่เหมือนกันอีกอย่างหนึ่ง
คือ เชอร์ล็อก
โฮมส์เป็นคนนำสิ่งที่เขาได้คาดการณ์ไว้ไปปฏิบัติจริงเพื่อที่จะทำให้ได้ผลลัพธ์จากเหตุการณ์ที่จำลองเอาไว้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างดีที่สุด
ถ้าหากเหตุการณ์ที่ได้คาดการณ์เอาไว้นั้นเห็นท่าว่าจะเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายแล้วละก็
เขาก็จะไม่นิ่งนอนใจที่จะหาทางจัดการความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเอาไว้เพื่อเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์ร้าย
ๆ เหล่านั้น
สิ่งที่ทำให้เชอร์ล็อก โฮมส์ดูพิเศษแตกต่างจากคนอื่นก็คือ การที่จะไม่มีทางหลงกลไปติดกับดักของข้อมูลในอดีตและปัจจุบัน
เพราะสิ่งที่เขาต้องทำคือการใช้วิจารณญาณของการเป็นนักสืบเพื่อมองไปข้างหน้าและไขคดีให้ได้ในที่สุด
เขาเป็นคนช่างสังเกตและค้นคว้าหาความรู้ใหม่ ๆ อยู่เรื่อย ๆ
ไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางการแพทย์ (กายวิภาค) วิทยาศาสตร์ (เคมี ฟิสิกส์
และธรณีวิทยา) ดนตรี (เล่นไวโอลินเก่งมาก) ศิลปะ
(เป็นนักแสดงที่เก่งกาจเพื่อหันเหความสนใจของผู้ต้องสงสัยได้) กีฬา
(เป็นทั้งมวยและฟันดาบ) กฎหมาย (รู้เรื่องกฎหมายอังกฤษเป็นอย่างดี) อาชญวิทยา
หรือแม้กระทั่งข่าวสารต่าง ๆ รอบตัว
และเนื่องด้วยเชอร์ล็อก
โฮมส์เป็นคนชอบอ่านหนังสือและยังเป็นนักคิดอยู่ตลอดเวลา
จึงทำให้เชอร์ล็อกโฮมส์เป็นคนที่มีความรู้รอบตัวที่จะเอามาประยุกต์ใช้ในงานของเขาเองได้เยอะ
มีคอมมอนเซนส์ (common sense) ที่เอาไว้มองเหตุการณ์ได้ล่วงหน้า
โดยอาศัยความรู้ที่สะสมมาพร้อมกับการสังเกตและปะติดปะต่อข่าวสารต่าง ๆ
จนกลายเป็นเรื่องราวที่ร้อยเรียงขึ้นมาจัดการกับรูปคดีที่ยาก ๆ
และช่วยให้เขารอดพ้นสถานการณ์อันเลวร้ายได้
ซึ่งถ้ากลับมามองโลกแห่งธุรกิจในปัจจุบันนี้
นักคณิตศาสตร์ประกันภัยหรือนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลที่เก่ง ๆ จะต้องเป็นคนที่สามารถมองไปข้างหน้าให้ได้ไกลและแม่นยำที่สุด
การที่จะตัดสินใจทำการใหญ่อะไรซักอย่างในปัจจุบันนี้จะต้องมีหลักฐานหรือตัวเลขมาสนับสนุนการตัดสินใจ
ซึ่งการที่จะคาดการณ์ล่วงหน้าได้ถูกต้องนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้ข้อมูลในอดีตประกอบกับวิจารณญาณเพื่อที่จะนำมาใช้วางแผนและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจให้เหมาะสม
นอกจากจะต้องเก็บข้อมูลให้เหมาะสมและมากพอแล้ว
ความรู้รอบตัวของมืออาชีพเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการตีความตัวเลขหรือประกอบการพิจารณากลยุทธ์ต่าง
ๆ โดยเฉพาะนักคณิตศาสตร์ประกันภัยที่ต้องมีความรู้พื้นฐานด้านการแพทย์
(เมื่อต้องเกี่ยวข้องกับชีวิตหรือสุขภาพของคน) ความรู้ด้านกฎหมาย
(เมื่อต้องพิจารณาร่างหรือตีความสัญญากรมธรรม์) ความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์
(เพื่อเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการ) ความรู้ทางด้านการเงิน ความรู้ทางด้านการลงทุน
ไม่ว่าในหรือนอกประเทศ หรือแม้กระทั่งความรู้ทางด้านการตลาดและข่าวสารรอบตัว
เซนส์ด้านข้อมูลที่ได้มาจากประสบการณ์มากมาย
ถ้าติดตามเรื่องราวของเชอร์ล็อก
โฮมส์เรื่อยมาก็จะรู้ว่า
ยิ่งเขามีประสบการณ์ก็ยิ่งรู้ว่าจะต้องเริ่มต้นสืบจากจุดไหน
เซนส์ของเขาจะบอกว่าควรจำลองรูปการณ์เป็นแบบไหน และอะไรที่เป็นแรงจูงใจให้ก่อคดี
จากนั้นจึงสืบหาหลักฐานต่าง ๆ เพื่อยืนยันสมมุติฐานของเขาว่าถูกต้องหรือไม่
และท้ายที่สุดก็ต้องไม่หลงกลกับหลักฐานเท็จที่ถูกสร้างขึ้นมาจากตัวคนร้าย
แน่นอนว่าชั่วโมงบินที่มีคุณภาพของการเป็นนักสืบของเขาทำให้เขาผงาดขึ้นมาเป็นยอดนักสืบในดวงใจของคนหลาย
ๆ คน
การเป็นนักคณิตศาสตร์ประกันภัยหรือนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลเอง ก็ต้องรู้ว่าข้อมูลไหนที่จำเป็นและจะต้องเริ่มหาข้อมูลจากจุดไหน จำลองเหตุการณ์ทางธุรกิจไปในทิศทางใด และอะไรที่เป็นความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยการนำตัวเลขมายืนยันสมมุติฐานที่ตั้งขึ้นไว้
ไม่ว่าจะเป็นเชอร์ล็อก
โฮมส์หรืออะไรก็ตาม การที่ชั่วโมงบินหรือประสบการณ์จะมีคุณภาพหรือไม่นั้น ก็คงต้องขึ้นอยู่กับว่าจะมีการพัฒนาทักษะในการประมวลเหตุและผล
มีการพัฒนากระบวนการความคิดเพื่อเพิ่มความแหลมคมในการวิเคราะห์
และเพิ่มความรู้ให้กับตัวเองอยู่ตลอดเวลาเพียงไหน
หากเชอร์ล็อก โฮมส์เอาแต่ทำงานไขคดีไปเรื่อย ๆ โดยไม่สนใจเพิ่มพูนทักษะและความรู้ของตัวเองแล้ว ก็คงจะไม่มีเชอร์ล็อก โฮมส์อย่างที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้ก็ได้
นายกสมาคมนักคณิตศาสตร์ประกันภัยแห่งประเทศไทย
อาจารย์บรรยายด้านการคำนวณผลประโยชน์พนักงานด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย
อาจารย์ที่ปรึกษาบทภาพยนตร์ Love Battle รัก 2 ปียินดีคืนเงิน
และผู้แต่งหนังสือ
บทความที่เกี่ยวข้อง