5 แนวคิดสุดเจ๋ง ที่มีผลต่อการเรียนและการทำงาน สู่ความสำเร็จในอนาคต

30 กรกฎาคม 2564

5 แนวคิดสุดเจ๋ง ที่มีผลต่อการเรียนและการทำงาน สู่ความสำเร็จในอนาคต


ผมเชื่อว่าผู้นำที่เก่งจริงคือคนที่สามารถส่งเสริมให้คนรอบข้างได้ใช้ศักยภาพของตนเองได้มากที่สุด รวมไปถึงการวางตัวคนให้เหมาะสมกับงาน เวลา โอกาส และสถานที่ ผู้นำที่ดีควรจะรู้จักจุดแข็งและจุดอ่อนของคนในทีม เพื่อที่จะหาโอกาสและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการแสดงศักยภาพของเขาได้ การมีวิสัยทัศน์ก็เป็นเรื่องสำคัญ ผู้นำควรจะมีความรู้เชิงลึกของธุรกิจที่ตนเองทำอยู่ และมีทิศทางที่ชัดเจนเพื่อที่จะนำทีมของตนมุ่งไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืน

Education & Experience : ประวัติการศึกษาและการทำงาน

ได้เรียนรู้อะไรจากมหาวิทยาลัยบ้าง

อย่างแรกเลย คือได้ความรู้ ถึงแม้ว่าเวลาทำงานจริง เราจะไม่ได้ใช้ความรู้ทุกอย่างที่เรียนมา แต่การเรียนในมหาวิทยาลัยเป็นการฝึกพัฒนาสมอง ฝึกกระบวนการคิด เป็นโลกแห่งการทำงานจำลอง เราสามารถลองผิดลองถูกได้จากการทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเป็นพื้นฐานในการทำงานในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการฝึกการทำงานร่วมกับคนอื่น การเข้าสังคม

ตอนเรียนกับตอนทำงานแตกต่างกันอย่างไร

ตอนเรียน ชีวิตคือการทำโจทย์ หาคำตอบของโจทย์นั้น ๆ แต่ตอนทำงาน ชีวิตคือการหาโจทย์ สร้างโจทย์ใหม่ ๆ ขึ้นมาเพื่อหาคำตอบในสิ่งที่เราไม่รู้ ถือเป็นความท้าทายอีกรูปแบบหนึ่งที่ตอนเรียนไม่มี ยิ่งเราหาโจทย์ที่ดีได้มากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นการพัฒนาตนเองมากเท่านั้น การแก้โจทย์มันไม่ยากเท่ากับการหาโจทย์ที่ถูกต้อง การหาโจทย์นั่นละคือความท้าทายที่ยากที่สุดในชีวิต


Working Style : แนวทางในการทำงาน

สไตล์งาน ถนัดหรือชื่นชอบงานประเภทไหน

ชอบทุกด้านเกี่ยวกับการจัดการ การวางแผน และด้านการประสานงาน โดยผมเน้นการทำงานเป็นทีม การคุยกัน เข้าใจกัน เนื่องจากในการทำงานต้องอาศัยหลาย ๆ ฝ่ายในการร่วมมือกัน เพื่อให้งานออกมาดีและเสร็จสมบูรณ์ตามที่ได้วางเป้าหมายไว้

สไตล์การทำงาน แนวทางหรือปรัชญาในการทำงาน

ในเรื่องการทำงาน ผมเปรียบเสมือน conductor ในวง orchestra ส่วนตัวเลขก็เหมือนตัวโน้ต ซึ่งการบรรเลงเพลงหนึ่งเพลงจะต้องอาศัยเครื่องดนตรีหลายชนิดช่วยกันเล่นเพื่อให้ออกมาเป็นเพลงที่ไพเราะ conductor เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการกำกับให้การบรรเลงนั้นออกมาสมบูรณ์ ก็เหมือนกับการทำงานเช่นกัน เราก็ต้องอาศัยความร่วมมือของลูกทีมทุกคนในองค์กรเพื่อพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จ

How to Succeed : เส้นทางสู่ความสำเร็จ

ทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จในงาน

3 คำสั้น ๆ คือ มุ่งมั่น มีวินัย และรักในอาชีพของตัวเอง อย่างที่รู้ ๆ กันว่ากว่าจะฝึกฝนตนเองให้เก่งเฉพาะด้านได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการจะเรียนหรือทำงานเป็นมืออาชีพทางด้านใดด้านหนึ่งนั้น ต้องอาศัยความมุ่งมั่นเป็นแรงขับเคลื่อน หากไม่มีความมุ่งมั่นมากพอก็มักจะล้มไปกลางคันเสียก่อน นอกจากความมุ่งมั่นแล้ว ยังต้องมีวินัยในตนเองอีกด้วย เช่น ถ้าจะต้องสอบก็ควรกำหนดเวลาที่จะอ่านหนังสือต่อวัน ก็ต้องทำให้ได้ อย่าผัดวันประกันพรุ่ง และเมื่อได้มาทำงานแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้คนเราประสบความสำเร็จในอาชีพคือ การที่มีใจรักในอาชีพนี้ ซึ่งทำให้รู้สึกว่างานที่ทำให้ทุกวันเหมือนไม่ใช่งาน แต่คือความสนุก ความท้าทายในชีวิต


Work & Life : การทำงานและการดำเนินชีวิต

ข้อดีและข้อเสียของการเป็นมืออาชีพเป็นอย่างไร

ข้อเสียก็คงเป็นเรื่องที่จะต้องทุ่มเทเวลากับการจะเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านนี้ ซึ่งถ้าไม่มุ่งมั่นพอก็จะไปถึงดวงดาวได้ยาก ทำให้ต้องระวังเรื่องสุขภาพไปด้วย แต่ถ้าไม่นับข้อเสีย ก็จะเห็นว่าข้อดีของเส้นทางการเป็นมืออาชีพนี้คือ การได้เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา การได้แข่งขันกับตัวเอง มีความภูมิใจในงาน


การทำงานส่งผลต่อการดำเนินชีวิต หรือชีวิตส่วนตัวอย่างไรบ้าง

บริหารเวลาได้ค่อนข้างยาก เมื่อก่อนผมเอาแต่สนุกกับการทำงาน และก็ยังเรียนต่อโทอีก 2 ใบ ตอนที่อยู่ฮ่องกง ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้เสียสุขภาพมาก แต่วันหนึ่งผมได้มีโอกาสอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ซึ่งหนังสือเล่มนั้นกล่าวไว้ว่า คนเราต้องโยนบอลอยู่ 3 ลูก คือ งานกับเงิน ลูกที่ 2 คือสุขภาพ ลูกที่ 3 ก็คือความสัมพันธ์ มนุษย์ไม่อาจก้าวถึงความเป็นสุดยอดได้ ถ้าขาดเรื่องใดเรื่องหนึ่ง และคงเหมือนกับขาตั้งกล้องที่ไม่อาจถ่ายรูปได้อย่างแน่นอน หากขาใดขาหนึ่งเกิดล้มหรือหักไป ผมจึงให้ความสำคัญกับลูกบอลทั้ง 3 ลูก เป็นอย่างมาก ผมจึงหันมาให้ความสำคัญกับคำว่า work life balance มากยิ่งขึ้น

Pride & Happiness : ความภูมิใจและความสุขในการทำงาน

อะไรคือความภูมิใจ คุณค่า และความสุขในการทำงาน

การที่เราได้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์และมีคุณค่าให้กับสังคมในขอบเขตที่เราสามารถทำได้

ปรัชญาในการทำงาน

ผมยึดหลัก 6 P “proper prior planning prevents poor performance” ซึ่งช่วยให้ผมสามารถจัดลำดับความสำคัญ จัดการ และแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขอขอบคุณอ้างอิง : ประชาชาติธุรกิจ 

เขียนโดย อาจารย์ทอมมี่ (พิเชฐ เจียรมณีทวีสิน)

คอลัมน์คุยฟุ้งเรื่องการเงิน: วันที่ 30 กรกฎาคม 2564


โดย : อาจารย์ทอมมี่ (พิเชฐ เจียรมณีทวีสิน) ด้านคณิตศาสตร์ประกันภัยคุณวุฒิสูงสุดระดับเฟลโล่ FSA, FIA, FRM, FSAT, MBA, MScFE (Hons), B.Eng (Hons)

อดีตนายกสมาคมนักคณิตศาสตร์ประกันภัยแห่งประเทศไทย 

อาจารย์บรรยายด้านการคำนวณผลประโยชน์พนักงานด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย

อาจารย์ที่ปรึกษาบทภาพยนตร์ Love Battle รัก 2 ปียินดีคืนเงิน 

และผู้แต่งหนังสือ

  • The Top job Secret ภาค 1 - อาชีพเงินล้านที่คนไทยยังไม่รู้จัก
  • The Top job Secret ภาค 2 - ทำน้อยได้มาก ฉลาดเลือกงาน
  • ให้เงินทำงาน ภาค 1 - การจัดการสินทรัพย์และหนี้สินให้ถูกวิธี (Asset Liability Management)
  • ให้เงินทำงาน ภาค 2 - วิเคราะห์ภาษีกับนักคณิตศาสตร์ประกันภัย (ตัดสินใจวางแผนออมเพื่อประโยชน์ทางภาษี)

บทความที่เกี่ยวข้อง