16 กรกฎาคม 2562
จัดกระบวนทัพใหม่กับความเหมือนที่แตกต่าง ของ SCBX กับ TIPH
ปกติแล้ว ในคอลัมน์นี้ผมจะไม่ค่อยเขียนเฉพาะเจาะจงเพื่อไปวิเคราะห์ในตัวบริษัท
ซึ่งถ้าคนที่ติดตามอ่านคอลัมน์นี้จะสังเกตเห็นว่าผมจะเขียนวิเคราะห์ในมุมหลักการ
ทิศทาง และภาพรวมมากกว่า
เพื่อให้เป็นหลักคิดในการนำไปต่อยอดใช้กับชีวิตประจำวันได้
แต่เนื้อหาในครั้งนี้
ผมขอเขียนและยกตัวอย่างบริษัทขึ้นมาบ้าง
เพราะมันเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเชิงโครงสร้างและทิศทางในการปรับกลยุทธ์ของวงการธุรกิจการเงิน
ซึ่งผมเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับคนอ่านได้
ถ้ายกตัวอย่างชื่อบริษัทให้เห็นภาพและเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นช่วงไตรมาสโค้งสุดท้ายของปี
2564 แล้ว หลายคนคงยังตื่นเต้นไม่หายกับเรื่องของการ disrupt เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในธุรกิจการเงินการธนาคารอย่าง
ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ที่ออกมาประกาศว่าจะให้ SCBX เป็นยานแม่โดยมีบริษัทลูกอื่น ๆ ที่ทำธุรกิจครอบคลุมเชื่อมโยงส่งเสริมให้กับธุรกิจหลักและเป็นพันธมิตรกับบริษัทยักษ์ใหญ่อื่น
ๆ ไม่ว่าจะเป็น CP หรือ AIS เป็นต้น
ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าโลกของการเงินได้เปลี่ยนไปถึงขนาดนี้แล้วหรือ
แต่ก็ทำให้ได้เห็นการทำงานที่คล่องตัวและมีทิศทางในการดำเนินงานชัดเจนขึ้น
อีกทั้งในตัวธนาคารเองก็มีฐานข้อมูลจำนวนมหาศาลที่เอามาทำประโยชน์ได้มากอยู่
นับว่าเป็นหมากตาเดินที่เฉียบขาดมาก
พอมาเห็นแบบนี้แล้วก็ย้อนกลับมามองที่ธุรกิจประกันบ้าง
ปรากฏว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็มีบริษัทประกันอยู่แห่งหนึ่งที่ทำแบบนี้เช่นกัน
ซึ่งก็แปลว่า SCB ไม่ใช่บริษัทแรกที่ทำแบบนี้
อย่างเช่น บริษัท
ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP ที่เพิ่งได้ทำการจดทะเบียนเป็น holding
company เช่นกัน
ซึ่งการตัดสินใจทำแบบนี้ก็เป็นทิศทางที่เฉียบคมสำหรับธุรกิจประกันภัยเช่นกัน
เนื่องจากธุรกิจประกันภัยมีกฎเกณฑ์หลายอย่างที่ต้องบริหารงานอย่างรอบคอบ
ทำให้มีบางจังหวะที่ธุรกิจอาจเติบโตได้ช้า แต่พอมีการปรับโครงสร้างแบบที่ SCB ทำนั้น
ก็กลายเป็นว่า ตัว holding company สามารถโฟกัสทิศทางและหาพันธมิตรมาส่งเสริมการเติบโตได้อย่างทวีคูณ
โดยเฉพาะธุรกิจประกันในยุคนี้ที่ต้องเดินทางพร้อมกับพันธมิตรทางธุรกิจไปด้วย
หากเป็นเมื่อก่อนนั้น ทาง TIP จะมีข้อจำกัดของประเภทธุรกิจที่นำเงินไปลงทุน
หรือสัดส่วนของการลงทุน แต่หากเป็นโครงสร้างใหม่แบบ TIPH แล้ว ก็จะสามารถลงทุนในธุรกิจประเภทใดก็ได้
ซึ่งเท่าที่เห็นนี้ ทาง TIPH มีนโยบายที่จะลงทุนให้ครบ ecosystem ของธุรกิจประกันไม่ว่าจะเป็น ในตัวธุรกิจบริษัทประกันเอง
และครอบคลุมไปถึงธุรกิจโบรกเกอร์ ธุรกิจปล่อยสินเชื่อ ธุรกิจ InsureTech ทำให้ TIPH ดูเหมือนเป็น SCBX ในเวอร์ชั่นของธุรกิจประกันไปเลยทีเดียว
ยกตัวอย่าง เช่น
การปล่อยธุรกิจสินเชื่อจากกรมธรรม์ของบริษัทตัวเองนั้น ก็เป็นธุรกิจที่ทำโดยไร้ความเสี่ยงที่แทบจะไม่มีหนี้เสียเลย
หรือเมื่อ TIPH สามารถลงทุนในพันธมิตรรอบด้านได้มากกว่าเดิม
ก็ทำให้เปิดโอกาสในการไปลงทุนในธุรกิจอื่นที่มี P/E สูงได้
ซึ่งตัวอย่างเหล่านี้ก็เหมือนกับ TIPH ได้ส่งเสริมให้คนไทยกล้าซื้อประกันมากขึ้น
มีความมั่นคงในชีวิตมากขึ้น เพราะการปล่อยสินเชื่อในที่นี้
น่าจะให้ดอกเบี้ยที่ต่ำได้ (เนื่องจากไร้ความเสี่ยง)
และเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้กับผู้ซื้อประกัน
ไม่ว่าจะเป็น SCBX หรือ TIPH นั้น สิ่งเหล่านี้ก็เหมือนเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเดินทางเพื่อ disrupt ตัวเองที่น่าติดตาม
และดูว่าจะสร้างคุณค่าให้กับภาคธุรกิจของตนเองได้มากแค่ไหน
คงเป็นเรื่องสนุกที่เราจะได้เห็นการจัดกระบวนทัพใหม่
ๆ แบบนี้กับธุรกิจอื่น ๆ เช่นกัน เมื่อเราได้เห็นธุรกิจการเงิน
ทั้งวงการธนาคารและวงการประกันภัยได้คิดหาวิธีก้าวกระโดดตัวเองให้เติบโตในยุคสมัยปัจจุบันที่เข้าสู่ดิจิทัลและยุคที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลในการขับเคลื่อนธุรกิจไปพร้อมคู่ค้าและพันธมิตรให้ครบวงจรมากขึ้น
ยุคสมัยนี้ไม่ใช่ปลาใหญ่กินปลาเล็กและก็ไม่ใช่ปลาเร็วกินปลาช้า
แต่สิ่งที่เรากำลังจะเห็นคือ
ปลาใหญ่ที่เร็วและพร้อมจะ disrupt ตัวเองนั้น
จะเป็นเจ้าแห่งปลาทั้งหมดในท้องทะเลครับ
ขอขอบคุณอ้างอิง: ประชาชาติธุรกิจ
เขียนโดย อาจารย์ทอมมี่
(พิเชฐ เจียรมณีทวีสิน)
คอลัมน์คุยฟุ้งเรื่องการเงิน: วันที่ 21 ตุลาคม 2564
บทความที่เกี่ยวข้อง