9 มีนาคม 2564
บทพิสูจน์พลังการเอาคืนของรายย่อยกับ GameStop
ในช่วงต้นปี
2021 นี้
มีเรื่องที่น่าจารึกในประวัติศาสตร์ที่คงต้องถูกกล่าวขานในตำราเทคนิคการเล่นหุ้นไปอีกนาน
เพราะเรื่องราวครั้งนี้ถูกผลักดันด้วยกระแสรายย่อยผนวกกับความ new normal ของกระแสโซเชียลที่รายย่อยทุกคนรวมพลังกันใช้ความรู้ไหวพริบในโลกโซเชียลและเอาชนะกองทุนรายใหญ่ได้อย่างขาดลอย
ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนว่า ในโลกของการลงทุนนั้น
มีสิ่งหนึ่งที่นักลงทุนทำได้ที่เรียกว่า “ขายชอร์ต (short sale)” อยู่
ซึ่งเราจะเรียกย่อ ๆ ว่า short และวิธีการของมันก็คือ
การทำตรงกันข้ามกับการซื้อหุ้น นั่นก็คือการไปขอเงินสดที่อ้างอิงกับราคาหุ้นตอนนี้
(เหมือนยืมหุ้นจากคนอื่นเพื่อมาขายเอาเงินสดมาตอนนี้ก่อน)
และสัญญาว่าจะไปซื้อหุ้นตัวนั้นมาคืนทีหลัง ซึ่งคนที่จะทำแบบนี้ก็ต้องหวังว่าจะ
“ได้ซื้อหุ้นคืนที่ราคาต่ำกว่าราคาอ้างอิงในตอนต้น” นั่นเอง
แปลว่าในตลาดหุ้นนั้น ไม่จำเป็นต้องลุ้นให้ราคาหุ้นขึ้นเสมอไป เพราะยังมีนักลงทุนอีกฝั่งที่หวังให้ราคาหุ้นลงจากการทำ short นั่นเอง บางครั้งเราเรียกว่า “กลยุทธ์การยืมหุ้นมาขายก่อน” และนั่นคือที่มาของการชิงไหวชิงพริบระหว่างรายย่อยกับกองทุนสถาบันรายใหญ่
กองทุนสถาบันรายใหญ่หลายแห่งจะอาศัยเทคนิคการทำ short แบบนี้อยู่บ่อย ๆ โดยอาศัยการไปวิเคราะห์บริษัทในตลาดหุ้นที่คิดว่าราคาของบริษัทหุ้นสูงเกินไป และถ้าเชื่อว่าราคาสูงเกินไปจริง ๆ ก็จะใช้เทคนิคการทำ short และหลังจากนั้นก็จะไปตรวจสอบเพื่อจับผิดว่าบริษัทนั้นมีความผิดพลาดอะไรบ้าง เพื่อออกข่าวร้าย ๆ ออกมาเพื่อกดราคาหุ้นให้ลงมาก ๆ และถ้าราคาหุ้นลงมา การทำ short นั้นก็จะได้กำไรมหาศาลในที่สุด
ปรากฏว่านักลงทุนรายย่อยที่เล่นเว็บบอร์ดคุยหุ้นบน Reddit
(เหมือนกับเว็บไซต์ Pantip ห้องสินธรบ้านเรา)
ได้ตั้งข้อสังเกตว่าหุ้นบริษัท GameStop นั้นถูกพวกกองทุนทำ short
อย่างมหาศาล
อีกทั้งพวกกองทุนยังออกข่าวให้ว่าบริษัทมีแนวโน้มที่จะเจ๊งสูง
ทำให้สมาชิกใน Reddit เกิดความไม่พอใจอย่างมากที่มาให้ร้ายบริษัทที่สร้างความทรงจำวัยเด็กของพวกเขา
ทำให้เกิดการรวมตัวกันในหมู่รายย่อยเพื่อกว้านซื้อหุ้นบริษัท GameStop บนแอป Robinhood และส่งผลให้ราคาหุ้นขึ้นอย่างมหาศาลเพิ่มขึ้นไปถึง
350 เหรียญสหรัฐ (หลาย 10 เท่า)
ซึ่งแน่นอนว่าเหตุการณ์เหล่านี้ นักลงทุนรายย่อยได้กำไรไป แต่พวกกองทุนขา short นั้นก็เจ๊งกันระนาว และปิดกองทุนไปในที่สุด
ทำให้แอปอย่าง Robinhood ที่ให้บริการซื้อขายหุ้นของรายย่อยต้องหยุดให้บริการในการซื้อหุ้น GameStop ไปหนึ่งวัน นักลงทุนรายย่อยเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่เหล่า Redditors ก็ให้กำลังใจกันและยืนยันที่จะทำการซื้อหุ้นต่อ เมื่อแอป Robinhood กลับมาเปิดให้บริการตามปกติแล้วราคาหุ้น GameStop ก็ยังพุ่งกลับมาทะยานต่อ
โดยปัจจุบันมีสมาชิกในกลุ่มกระทู้ของ
Reddit กว่า 5 ล้านคนแล้ว
จากตอนแรกเพียงประมาณ 3 ล้านคน
และด้วยความอัดอั้นต่อเหล่านักลงทุนรายใหญ่ เหล่า Redditors ได้ตั้งเป้าหมายที่จะไปดันราคาหุ้นที่มีการถูกทำ
short เยอะ ๆ จากพวกกองทุน
อย่างบริษัท Blackberry หรือ Nokia เป็นต้น
ที่ราคาพุ่งสูงขึ้นไม่เป็นไปตามปัจจัยพื้นฐานของบริษัท
และเรียกว่ากลายเป็นขบวนการกอบกู้คนถูก short และเป็นการเอาคืนสถาบันรายใหญ่
จะเห็นได้ว่าเหตุการณ์ทัวร์ลงแบบนี้ได้กลายเป็น new normal ในตลาดหุ้นทั่วโลกไปแล้ว
และจะไม่ได้จบเพียงในตลาดหุ้นเท่านั้น
ตอนนี้เริ่มมีคนประกาศว่าจะทำการเข้าไปดันราคาในตลาดเงิน (silver) ซึ่งเป็นตลาดสำคัญที่มีผลต่อการตรึงราคาดอกเบี้ยและเงินเฟ้ออีกด้วย
โดยล่าสุดราคาโลหะเงินในตลาดขยับพุ่งสูงขึ้น
หลังจากที่กลุ่มนักลงทุนรายย่อยใน Wall Street ได้หันเข้าปั่นราคาโลหะเงินแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี
เพื่อกดดันให้เหล่ากองทุนให้เข้าซื้อคืนสัญญาเพื่อตัดขาดทุน
หลังจากที่ได้ขายชอร์ตก่อนหน้านี้
แต่กระนั้นก็คาดว่าราคาโลหะเงินมีแนวโน้มในช่วงขาลงต่อไป
เนื่องจากตลาดโลหะเงินนั้นมีขนาดใหญ่มากจึงเป็นเรื่องยากที่นักลงทุนรายย่อยจะสามารถเข้ามาปั่นราคา
เมื่อเทียบกับการปั่นราคาหุ้นเพียงตัวเดียวในตลาด
นอกจากนี้ การปรับลงของราคาหุ้น GameStop เป็นสัญญาณว่ากองทุนได้ปิดสถานะ
Short หุ้นดังกล่าวหมดแล้ว
อย่างไรก็ตาม ความบ้าคลั่งนี้ยังไม่ได้จบลงแต่อย่างใด เมื่อเร็ว ๆ
นี้ กลุ่มรายย่อยได้ขยายวงกว้างเข้ามาในตลาดทุนอย่าง มาเลเซีย และออสเตรเลีย
ที่ประกาศเอาคืนเหล่าสถาบันรายใหญ่ที่คอยทำ short อีกด้วย
จนกระทบต่อเนื่องเข้ามายังตลาดหุ้นไทยที่นักลงทุนต่างประเทศเทขายหุ้นไทยเพื่อนำเงินไปปิดรูรั่วจากเหตุการณ์
GameStop ทำให้ดัชนี SET index หลุด 1,500
จุด ช่วงวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา
คงได้แต่ภาวนาว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะไม่ส่งผลให้เกิดฟองสบู่ลูกใหญ่ต่อระบบการเงินโลก
และต้องคอยติดตามกันต่อไปว่า บทพิสูจน์พลังการเอาคืนของรายย่อยนี้จะเป็นอย่างไร
ป.ล. บริษัท GameStop เป็นบริษัทขายแผ่นวิดีโอเกม เครื่องเล่นเกม ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต แต่ระยะหลังยอดขายแย่ลงทุกปี และหุ้นตกลงอย่างต่อเนื่องเหลือ 4 เหรียญสหรัฐ ทำให้กองทุน Hedge Fund อย่าง Citron Research เข้ามาทำการ short sell อย่างท่วมท้น จนติดอันดับ short สูงที่สุดในโลก
ขอขอบคุณอ้างอิง : ประชาชาติธุรกิจ
เขียนโดย อาจารย์ทอมมี่ (พิเชฐ
เจียรมณีทวีสิน)
คอลัมน์คุยฟุ้งเรื่องการเงิน: วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2564
นายกสมาคมนักคณิตศาสตร์ประกันภัยแห่งประเทศไทย
อาจารย์บรรยายด้านการคำนวณผลประโยชน์พนักงานด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย
อาจารย์ที่ปรึกษาบทภาพยนตร์ Love Battle รัก 2 ปียินดีคืนเงิน
และผู้แต่งหนังสือ
บทความที่เกี่ยวข้อง