“ประกัน เจอ จ่าย จบ” สึนามิลูกใหญ่ของธุรกิจประกันภัย

16 กรกฎาคม 2562


ประกัน เจอ จ่าย จบ” สึนามิลูกใหญ่ของธุรกิจประกันภัย

 

ในช่วงที่สถานการณ์โควิดมาพร้อมกับความไม่แน่นอนทั้งหลายตั้งแต่ต้นปี 2563 เป็นต้นมานั้น หลายธุรกิจก็พยายามปรับตัวกันอยู่ตลอด ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจประกันที่พยายามปรับตัวให้เข้ากับตลาดเหมือนกัน


โดยมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทยที่มีอยู่ในขณะนั้น และหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ถือเป็นนวัตกรรมที่นำออกมาสู่ตลาดก็คือ “ประกัน เจอ จ่าย จบ” ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบของ “ประกันโควิด” นั่นเอง

 

โควิด


จริง ๆ แล้วประกันสุขภาพทั่วไปนั้นก็คุ้มครองความเสี่ยงจากโควิดอยู่แล้ว แต่ประกันโควิดจะคุ้มครองเฉพาะเจาะลึกลงไปกับเรื่องโควิดเท่านั้น และตัวประกัน เจอ จ่าย จบ เองก็เป็นหนึ่งในลักษณะความคุ้มครองที่มีลักษณะเฉพาะลงมาอีกที


เรียกได้ว่าประกันสุขภาพนั้นก็คุ้มครองกันตามปกติอยู่แล้ว แต่เพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์นั้นเฉพาะเจาะจงลงมา ประกอบกับทำให้ได้ราคาเบี้ยที่สามารถเข้าถึงทุกคนโดยเฉพาะกับผู้ที่มีรายได้ไม่สูงนัก ด้วยเหตุนี้เองประกัน เจอ จ่าย จบ จึงถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ในการขาย


และเป็นที่ทราบกันอย่างดีว่า ประกัน เจอ จ่าย จบ กลายเป็น talk of the town ที่มีคนพูดถึงกันมากและประสบความสำเร็จในการขายอย่างถล่มทลาย เพราะตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง


แต่ในมุมกลับกันตั้งแต่ที่ผมเริ่มได้ยินเรื่องประกัน เจอ จ่าย จบ ที่ออกขายสู่ท้องตลาด ในใจส่วนหนึ่งก็ชื่นชมบริษัทประกันที่ทำออกมาเพื่อตอบโจทย์ของสังคม แต่ในอีกส่วนหนึ่งก็มีความกังวลอยู่ไม่น้อยถึงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับบริษัทประกันภัยอย่างไร้ขีดจำกัด


เพราะอาจประมาทเกินไปกับการกำหนดราคาที่เหมาะสม ซึ่งก็บังคับกันไม่ได้ว่าแต่ละบริษัทประกันภัยจะกำหนดอัตราเบี้ยมากน้อยเท่าไร อีกทั้งแต่ละบริษัทคงมีการทำ profit test หรือการทดสอบความสามารถในการทำกำไรออกมาในแบบฉบับของตัวเองอยู่แล้ว


ในฐานะของนายกสมาคมนักคณิตศาสตร์ประกันภัยแห่งประเทศไทยในตอนนั้น สิ่งที่ผมทำได้จึงเป็นการพยายามเขียนหลักการในการกำหนดราคา และแสดงถึงความกังวลจากความเสี่ยงที่ปิดไม่หมด


รวมถึงความผันผวนของสถานการณ์ที่ไม่ได้เกิดจากสถิติ (แต่เกิดจากพฤติกรรมของมนุษย์) เป็นต้น ด้วยทั้งหมดนี้ตัวผมเองหวังจะเป็นฟันเฟืองหนึ่งที่มีส่วนรับผิดชอบให้ธุรกิจประกันภัยมีความยั่งยืนและอยู่บนหลักการของการจัดการความเสี่ยงที่แท้จริง


ทำให้ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา ผมเคยเขียนอยู่บ่อย ๆ ว่า การขายประกัน เจอ จ่าย จบ เป็นสิ่งที่ดีที่จะทำให้ผู้บริโภคได้มี moment of truth หรือได้เห็นคุณค่าของการประกันภัย


เพียงแต่บริษัทจะต้องประเมินลิมิตของตัวเองว่าจะรับความเสี่ยงเข้ามาได้มากเท่าไร และเผื่อกรณี worst case scenario เอาไว้เสมอ เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าบริษัทประกันภัยมีความมั่นคงและบริการลูกค้าได้อย่างยั่งยืน


จากประสบการณ์ในการออกแบบประกันที่ผ่านมา ประกอบกับการที่เคยทำ predictive analysis เพื่อมองภาพความเสี่ยงเชิงปัจจัยที่เป็นพลวัตสะท้อนไปในอนาคตนั้น


ประกันโควิด

 

ทำให้ชี้ชัดได้ว่าการที่ขึ้นชื่อว่าโรคระบาดแล้วมันเป็นความเสี่ยงที่ไม่อยู่นิ่ง และมีจุดพลิกผันอยู่หลายจุดที่ต้องฝังปัจจัยเหล่านั้นลงในการคำนวณด้วย ไม่ว่าจะเป็นมาตรการของภาครัฐและหน่วยงานกำกับดูแล จำนวนบุคลากรทางการแพทย์


เครื่องมือทางการแพทย์ จำนวนเตียง จำนวนคนฉีดวัคซีน วิวัฒนาการของวัคซีน วิวัฒนาการของไวรัส วิวัฒนาการของยาและที่ขาดไม่ได้ คือ สมการแรงจูงใจในการไปติดโควิดที่เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ต้องออกแบบประกันตามสถานการณ์เพื่อให้แรงจูงใจเหล่านี้อยู่ในปริมาณที่จำกัดเท่านั้น เป็นต้น


สิ่งที่ได้สื่อออกมาตั้งแต่ต้นปีที่แล้วมาจนถึงตอนนี้ ผมดีใจที่ได้เห็นบริษัทประกันภัยได้นำแนวคิดจากบทความเหล่านั้นไปประเมินสถานการณ์และระมัดระวังในการขายประกันโควิดกันมากขึ้น


โดยจะเห็นว่าตั้งแต่กลางปีที่แล้วเป็นต้นมาจะมีบางบริษัทที่มีการปรับเบี้ยขึ้น บางบริษัทตัดสินใจปรับ เจอ จ่าย จบ ให้น้อยลง เพราะรู้ตัวว่ารับความเสี่ยงมากจนเกินไป ทำให้จากที่จะต้องขาดทุนมากก็กลายเป็นขาดทุนน้อย


แต่ในมุมกลับกัน ผมก็รู้สึกเสียใจไม่น้อยกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับบริษัทประกันภัยบางแห่งที่ประสบกับปัญหาทางด้านการเงินจากการจ่ายเคลมประกันโควิดที่พุ่งทวีคูณขึ้นมาอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ทันตั้งตัว แต่ผมเชื่อว่าเราจะผ่านพ้นสถานการณ์โควิดนี้ไปด้วยกันครับ (จากใจนักคณิตศาสตร์ประกันภัยคนหนึ่ง)


ผมได้รวบรวมลิงก์บทความไว้ใน https://www.tommypichet.com/post/article8



ขอขอบคุณอ้างอิง: ประชาชาติธุรกิจ 

เขียนโดย อาจารย์ทอมมี่ (พิเชฐ เจียรมณีทวีสิน)

คอลัมน์คุยฟุ้งเรื่องการเงิน: วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564

 


โดย : อาจาร์ยทอมมี่ (พิเชฐ เจียรมณีทวีสิน) ด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย คุณวุฒิสูงสุดระดับเฟลโล่
FSA, FIA, FRM, FSAT, MBA, MScFE (Hons), B.Eng (Hons)
นายกสมาคมนักคณิตศาสตร์ประกันภัยแห่งประเทศไทย 
อาจารย์บรรยายด้านการคำนวณผลประโยชน์พนักงานด้วยหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย 
อาจารย์ที่ปรึกษาบทภาพยนตร์ Love Battle รัก 2 ปียินดีคืนเงิน 
และผู้แต่งหนังสือ 
  • The Top Job Secret ภาค 1 – อาชีพเงินล้านที่คนไทยยังไม่รู้จัก
  • The Top Job Secret ภาค 2 - ทำน้อยได้มาก ฉลาดเลือกงาน 
  • ให้เงินทำงาน ภาค 1 - การจัดการสินทรัพย์และหนี้สินให้ถูกวิธี (Asset Liability Management)
  • ให้เงินทำงาน ภาค 2 - วิเคราะห์ภาษีกับนักคณิตศาสตร์ประกันภัย (ตัดสินใจวางแผนการออมเพื่อประโยชน์ทางภาษี) 


บทความที่เกี่ยวข้อง