18 พฤษภาคม 2564
เนื่องจากไวรัสโคโรน่า
2019 เป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ทำให้การหาข้อมูลเพื่อใช้สำหรับวิเคราะห์ของนักคณิตศาสตร์ประกันภัยเป็นไปค่อนข้างยาก
สิ่งที่พอทำได้ก็คือการไปหาข้อมูลของการเกิดโรคระบาดในอดีต
เช่น MERS หรือ SARS
แล้วลองศึกษาข้อมูลจากการระบาดของเชื้อเหล่านี้
เพื่อนำมาใช้วิเคราะห์การระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 ในครั้งนี้
นอกจากนี้
อาจจะศึกษาวัฏจักรโรคระบาดที่เกิดขึ้นทุก 100
ปี อีกทางด้วยก็ได้ โดยมีการกล่าวกันว่าในทุก 100 ปี จะมีการแพร่ระบาดใหญ่ของไวรัส 1 ครั้ง
แบบที่คร่าชีวิตผู้คนมากมาย และทำให้ทุกคนทั้งโลกจดจำไว้ในประวัติศาสตร์
ย้อนรอยไข้หวัดสเปน เมื่อ 100 ปีที่แล้ว ที่ถือเป็นวิกฤตการณ์ด้านสุขภาพที่มีผู้เสียชีวิตโดยประมาณ 60-80 ล้านคนทั่วโลก นับเป็นอัตราการเสียชีวิตของมนุษยชาติมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงสั้น ๆ
แค่ระยะเวลาประมาณ 3 เดือนเท่านั้น
และประวัติศาสตร์ก็มักจะซ้ำรอยเดิมทุก ๆ 100 ปี
จึงถือเป็นประโยชน์ไม่น้อยหากเราจะทำความรู้จักกับโรคระบาดนี้ที่คล้ายกับสถานการณ์ปัจจุบัน
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าการระบาดของไข้หวัดสเปนนั้น
สามารถแบ่งออกเป็น 3 ระลอกคลื่น
โดยแต่ละคลื่นใช้ระยะเวลาต่างกันและมีการกลายพันธุ์ได้ซึ่งการออกแบบประกันคุ้มครองโรคระบาด
โดยเฉพาะแบบนี้จะต้องเผื่อระลอกคลื่นเหล่านี้ด้วย
ถ้าคุ้มครองแค่ 2-3 เดือน
ก็ยังพอคำนวณได้ แต่ถ้าเกิน 3 เดือนเป็นต้นไป
จะคาดคะเนเผื่อระลอกคลื่นได้ยาก
คลื่นลูกที่หนึ่ง : สามารถติดต่อกันง่ายดาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนหนุ่มกับคนสุขภาพแข็งแรง
แต่คนที่ติดหวัดในระลอกแรกนั้นจะไม่เป็นอันตรายถึงเสียชีวิต
หรืออัตราการเสียชีวิตจะไม่สูง
คลื่นลูกที่สอง : ความรุนแรงเพิ่มพูนขึ้น
จนสามารถทำให้คนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก แต่คนที่มีภูมิคุ้มกันจากคลื่นลูกแรกนั้น
กลับจะมีโอกาสติดเชื้อได้น้อยกว่า
คลื่นลูกที่สาม : สามารถกลายพันธุ์ไปติดเด็กได้ง่ายมากขึ้น
และทำให้คนเสียชีวิตมากขึ้น
จะเห็นว่าในสถานการณ์การแพร่ระบาดใหญ่ในทุก 100 ปีของไวรัสนั้นกราฟของอัตรามรณะ (mortality curve) มีลักษณะเป็นรูป
W (คือมันจะแกว่งขึ้นแกว่งลงอย่างมากในแต่ละช่วงอายุ)
ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนที่อายุในวัยกลางคน จะมีอัตราการเสียชีวิตที่สูงเท่า ๆ
กับคนสูงอายุและเด็กเล็ก
อย่างสถานการณ์ในปัจจุบันการระบาดของไวรัส COVID-19 ที่กลายพันธุ์ และพร้อมที่จะเป็นคลื่นลูกใหม่ ในขณะที่คนที่ติด COVID-19 ตอนนี้อาจจะมีภูมิต้านทานสำหรับเชื้อที่จะกลายพันธุ์จู่โจมแบบไข้หวัดสเปนในตอนนั้นก็ได้
มุมมองของบริษัทประกัน
การที่บริษัทประกันภัยจะออกแบบกรมธรรม์คุ้มครอง COVID-19 อย่างไรนั้นก็สุดแล้วแต่มุมมองของนักคณิตศาสตร์ประกันภัยในแต่ละบริษัท
ว่าจะกล้าคุ้มครองยาวถึงขนาดไหน
เนื่องจากความเสี่ยงที่แท้จริงนั้นจะอยู่ตอนระลอกคลื่นถัด ๆ ไป
ตอนนี้คงเป็นเพียงการแข่งกันระหว่างวิวัฒนาการการแพทย์ที่จะหายารักษาโรคและวัคซีนให้ได้
และการวิวัฒนาการของไวรัส
ส่วนหน้าที่ของนักคณิตศาสตร์ประกันภัยก็ได้แต่เพียงเฝ้าเก็บสถิติ
เพื่อให้สามารถออกแบบผลิตภัณฑ์ประกันภัยได้ครอบคลุมสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม
และจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
ทิศทางการแพร่ระบาดในอนาคตนั้นเป็นไปได้หลายแบบและกว้างขวางมาก
ทำให้บริษัทประกันที่เปิดรับประกัน COVID-19 นี้
ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเคลมจะเกิดได้มากน้อยเพียงใด
จึงจำเป็นต้องอาศัยการคำนวณเผื่อค่าความสูญเสียเอาไว้
โดยพิจารณาเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุด (worse case) คือ
ผู้เอาประกันภัยติดเชื้อกันหมด และบริษัทรับประกันภัยต้องจ่ายทุกคนและทุกกรณี
ฉะนั้นต้องมาดูว่าบริษัทประกันจะรับความสูญเสียนี้ไหวหรือไม่
หรืออีกนัยหนึ่งคือ บริษัทประกันควรตระหนักถึงการจำกัดความเสี่ยง (stop loss) มากกว่าการเก็งกำไรจากการขายประกัน
COVID-19
เพราะหากคลื่นลูกถัด ๆ ไป
ของไวรัสมาแบบรุนแรงมากขึ้น บริษัทประกันก็จะไม่สามารถทำกำไรได้อีกต่อไป ทั้งนี้
จะต้องหาวิธีการเพื่อให้เกิดการขาดทุนน้อยที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้น
บางบริษัทอาจจะถือว่าการขายประกัน COVID-19
เป็นการทำเพื่อ CSR หรือความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กร
(corporate social responsibility)
อย่างหนึ่งด้วย
และโจทย์ที่สำคัญของนักคณิตศาสตร์ประกันภัยอีกข้อหนึ่งต่อมุมมองของ COVID-19 คือ
การเตรียมความพร้อมด้านเงินกองทุนและเงินสำหรับจ่ายคืนลูกค้า
โดยต้องคิดเผื่อปัจจัยที่ได้กล่าวมาข้างต้น
ทั้งหมดนี้ต้องทำแบบจำลองที่แตกต่างจากแบบจำลองการออกแบบประกันทั่วไป
ถึงแม้ว่า ณ เวลานี้ ประกันภัย COVID-19
จะยังไม่เกิดเคลมที่มากมายนัก
แต่นักออกแบบอย่างนักคณิตศาสตร์ประกันภัยก็ต้องเตรียมความพร้อมให้กับบริษัทประกันเอาไว้
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคให้มากที่สุด
ในครั้งถัดไปเราจะมากล่าวถึงหลักการและมุมมองของนักคณิตศาสตร์ประกันภัยต่อการออกแบบและคำนวณเบี้ยประกันภัย COVID-19
ขอขอบคุณอ้างอิง : ประชาชาติธุรกิจ
เขียนโดย อาจารย์ทอมมี่ (พิเชฐ เจียรมณีทวีสิน)
คอลัมน์คุยฟุ้งเรื่องการเงิน: วันที่ 11 พฤษภาคม 2564
นายกสมาคมนักคณิตศาสตร์ประกันภัยแห่งประเทศไทย
อาจารย์บรรยายด้านการคำนวณผลประโยชน์พนักงานด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย
อาจารย์ที่ปรึกษาบทภาพยนตร์ Love Battle รัก 2 ปียินดีคืนเงิน
และผู้แต่งหนังสือ
บทความที่เกี่ยวข้อง